พื้นกระเบื้องยาง LVT, SPC และ WPC แตกต่างกันอย่างไร

พื้นกระเบื้องยาง LVT, SPC และ WPC

กระเบื้องยาง LVT ย่อมาจาก "Luxury Vinyl Tiles" : ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้น เนื่องจากรูปลักษณ์ที่หรูหรา ราคาถูก ทนทาน และความ สะดวกในการติดตั้ง คุณอาจได้ยินพวกเขาเรียกว่า LVP ย่อมาจาก "Luxury Vinyl Planks"

ข้อดีของ LVT : การออกแบบลวดลาด และสไตล์ที่หลากหลาย ตั้งแต่แบบหิน แบบไม้ และแบบกระเบื้อง LVT เป็นวัสดุที่มีลักษณะและให้ความรู้สึก เหมือนไม้ธรรมชาติหรือหิน สามารถทําให้บ้านของคุณมีรูปลักษณ์ที่หรูหรา และซับซ้อน เช่นเดียวกับวัสดุธรรมชาติ โดยไม่มีข้อเสีย ซึ่งต่างจากไม้ ธรรมชาติหรือหิน มีการบํารุงรักษามากกว่า และดูแลรักษาความสะอาดได้ยากกว่า และไม้ธรรมชาติต้องมีการขัด เพื่อรักษาความเงา และขจัดรอย ขีดข่วน ดังนั้น กระเบื้องยาง LVT จึงตอบโจทย์การใช้งานได้อย่างลงตัว

ข้อเสียของ LVT : ต้านทานการขีดข่วนปลานกลาง การติดตั้งต้องใช้กาว

กระเบื้องยาง SPC ย่อมาจาก "Stone Plastic Composite" : ซึ่งเกิดจากการผสมกันระหว่างหินปูนบดอัดเข้ากับพลาสติก กระเบื้องยาง SPC โดยทั่วไปเป็นหินปูน 80% โพลิเมอร์ (PVC) 20% และไม่ใช่ "โฟม" จึงมีความหนาแน่นของแกนกลางสูงกว่า ทําให้รู้สึกมั่นคงยิ่งขึ้นใต้ฝ่าเท้า และยัง ให้ความรู้สึกเย็นใต้ฝ่าเท้า

ข้อดีของ SPC : สามารถทําให้บ้านของคุณมีรูปลักษณ์ที่หรูหรา มีอายุการใช้งานยาวนาน 10 ปี และหาซื้อง่าย ตอบโจทย์การใช้งานได้อย่างลงตัว

ข้อเสียของ SPC : แกนกลาง SPC โดยทั่วไปเป็นหินปูน และไม่ใช่ "โฟม" จึงมีความหนาแน่นสูงกว่า อาจทําให้รู้สึกไม่สบายเท้า ราคาสูงกว่า WPC

กระเบื้องยาง WPC ย่อมาจาก "Wood Plastic Composite" : ซึ่งเป็นวัสดุที่ผลิตจาก โพลิเมอร์ (PVC) คุณภาพสูง หินปูน สารที่ทําให้เกิด ฟอง และไม้ อัดแน่นเข้าด้วยกัน ช่วยเพิ่มความคงตัวให้กับแผ่นกระเบื้อง จึงไม่พบปัญหาการเกยกัน หรือโก่งตัวของแผ่นกระเบื้อง

ข้อดีของ WPC : ขณะใช้งานในพื้นที่ที่มีอุณหภูมิสูง หรือต่ํามาก ทั้งยังช่วยเรื่องการดูดซับเสียง ที่เกิดจากแรงกระแทก หรือตกกระทบ กันน้ํา กัน เชื้อรา มีอายุการใช้งานยาวนาน 10 ปี และหาซื้อได้ง่าย

ข้อเสียของ WPC : โดยทั่วไปมีหินปูนผสมเพียง 50% และยังมีส่วนผสมของสารที่ทําให้เกิดฟอง และไม้ ทนทาน ราคาถูกกว่าแต่หนาแน่นน้อยกว่า
SPC